เช็กให้ดี น้ำท่วมรถยนต์ ประกันจ่ายมั้ย พร้อมบทสรุปวิธีดูแลรักษารถยนต์หลังจมน้ำ
หน้าฝนแบบนี้ปัญหากวนใจคนใช้รถใช้ถนนทุกคนก็คงหนีไม่พ้นเรื่องน้ำท่วมนี่แหละครับ เพราะประเทศเราระบบท่อระบายน้ำต่าง ๆ ก็อย่างที่รู้กันดีว่าไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราว ฝนตกทีน้ำก็เอ่อล้นจนเต็มสองข้างทางหมด ทำให้มีโอกาสที่รถยนต์สุดที่รักของเราจะจมน้ำได้ง่าย ๆ เผลอ ๆ แค่ขับลุยน้ำ ทะเบียนรถสวย ๆ ของเราก็หลุดร่อนปลิวกระจายเพราะน้ำซัดซะแล้ว เป็นปัญหาปวดหัว ทำให้เราต้องเดือดร้อนไปทำ ทะเบียนรถยนต์ ใหม่อีก ถ้าโชคร้ายขับลุยน้ำท่วมสูงถึงขนาดน้ำเข้าเครื่อง รถดับ สตาร์ทไม่ติด งานนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ตลกแน่ ๆ ซ่อมกันทีไม่รู้ต้องใช้เงินกี่บาท ดังนั้นสำหรับใครที่ทำประกันรถยนต์เอาไว้ขอแนะนำให้เช็กด่วนเลยครับว่าประกันรถยนต์ของเราเค้าว่ายังไงเกี่ยวกับเรื่องของน้ำท่วม และภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับตัวรถ....
น้ำท่วมรถยนต์ เคลมประกันได้มั้ย?
ถึงแม้เราจะทำประกันรถยนต์กันเรียบร้อยแล้วแต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไปว่ารถของเราจะได้รับความคุ้มครอง ปลอดภัยจากน้ำท่วมเด็ดขาดนะครับ เพราะไม่ใช่ว่าประกันภัยรถยนต์ทุกเจ้าเค้าจะคุ้มครองในเรื่องนี้ ถ้าเผลอไปขับลุยน้ำจน ทะเบียนรถ หลุดแต่ประกันไม่คุ้มครองนี่งานนี้บอกเลยว่าไม่คุ้มกันแน่ ๆ
ซึ่งประกันรถยนต์ที่คุ้มครองส่วนใหญ่จะเป็นประกันชั้น 3+ ขึ้นไป แต่ก็อย่างที่บอกไปครับว่าไม่ใช่ทุกที่ที่จะคุ้มครอง ดังนั้นแนะนำให้เช็กกรมธรรม์ของเราดี ๆ ว่าที่ตกลงรายละเอียดไว้นั้นได้รองรับความคุ้มครองเรื่องน้ำท่วมด้วยรึเปล่า ถ้าไม่ล่ะก็แนะนำให้โทรประสานงานกับทางประกันภัยให้ไวเลยครับ ขอให้เค้าเพิ่มความคุ้มครองในเรื่องของน้ำท่วมเข้าไปด้วย ถึงแม้เบี้ยประกันมันจะแพงขึ้นหน่อย แต่ถ้าแลกกับสิทธิ์ที่เราจะได้มา และความรอบคอบงานนี้ต้องบอกเลยว่าคุ้ม
วิธีดูแลรถเบื้องต้น หลังลุยน้ำท่วมจน ทะเบียนรถสวย ๆ หลุดลอยไป
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไปเผลอขับรถลุยน้ำท่วมมาเป็นที่เรียบร้อย จน ทะเบียนรถยนต์ หลุดลอยไปแล้ว ก็ขอแนะนำให้ดูแลรถยนต์เบื้องต้นด้วย 6 ขั้นตอนเหล่านี้เลย
1. ล้างรถให้สะอาด ฉีดน้ำเข้าใต้ท้องเพื่อขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจติดมากับน้ำท่วม
2. เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ น้ำมันเครื่องใหม่ เพราะอาจมีน้ำซึมเข้าไปในระบบ
3. ถอดแบตเตอร์รี่รถยนต์ออกเพื่อตัดวงจรไฟฟ้าของรถ แก้ปัญหาไฟช็อตไม่ให้ส่งผลต่อส่วนอื่น ๆ
4. ตรวจเช็กหัวเทียน แผงฟิวส์ กล่องรีเลย์ ถอดทุกอย่างออกตากแดด เพื่อไม่ให้ระบบไฟมีปัญหา
5. ถอดอะไหล่ทุกชิ้นที่ทำได้มาล้าง ทำความสะอาด และตากแดด เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย เบาะ และพรมปูพื้น เป็นต้น
6. จอดรถเปิดประตูและกระจกทุกบานทิ้งไว้กลางแดด เพื่อขับไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หมดไปจากรถยนต์
http://www.legendreplica.co.uk
เพียง 6 ขั้นตอนเหล่านี้ก็สามารถรับมือกับปัญหารถยนต์จมน้ำด้วยตัวของเราเองได้แล้ว หลังจากที่รถยนต์ของเราสามารถใช้งานได้ สตาร์ทติด ก็แนะนำให้ขับไปเช็กที่ศูนย์รถยนต์ใกล้บ้านดูอีกทีว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหนรึเปล่า เพื่อเป็นการเช็กครั้งสุดท้าย จะได้ใช้รถได้อย่างสบายใจนั่นเอง
